ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เลเวอเรจแบบลอยตัว

บางตราสารบน Doto ใช้ เลเวอเรจแบบลอยตัว ไม่ใช่เลเวอเรจแบบคงที่

อัปเดตเมื่อเดือนที่แล้ว

เลเวอเรจแบบลอยตัวคือวิธี คำนวณเลเวอเรจและมาร์จิ้นแบบไดนามิก บนแพลตฟอร์ม

แทนที่จะใช้เลเวอเรจจำนวนเดียวสำหรับทุกออเดอร์ ระบบจะปรับเลเวอเรจตาม มูลค่าการเทรดรวม (trade amount) ของสถานะที่คุณเปิดอยู่ในตราสารนั้น ๆ

สิ่งนี้ช่วยให้เทรดเดอร์มีความยืดหยุ่นมากขึ้น พร้อมทั้งควบคุมความเสี่ยงได้ดีขึ้น

เลเวอเรจแบบลอยตัวคืออะไร?

เลเวอเรจแบบลอยตัวหมายความว่า เลเวอเรจของคุณจะเปลี่ยนไปตามขนาดของสถานะรวมทั้งหมด ในตราสารนั้น

ทำงานอย่างไร:

  • ออเดอร์ขนาดเล็ก = เลเวอเรจสูงสุด
    (เช่น 1:500)

  • ออเดอร์ขนาดใหญ่ = เลเวอเรจลดลง
    (เช่น 1:200 → 1:100 → 1:50 → 1:20)

  • ระบบจะคำนวณให้โดยอัตโนมัติ

  • ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น = ต้องใช้มาร์จิ้นสูงขึ้น

💡 เคล็ดลับ: เลเวอเรจแบบลอยตัวช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจสูงเกินไปเมื่อมีสถานะขนาดใหญ่

การคำนวณเลเวอเรจแบบลอยตัว

เลเวอเรจแบบลอยตัวขึ้นอยู่กับ trade amount — มูลค่าทางการเงินของออเดอร์ที่เปิดอยู่สำหรับตราสารนั้น

สูตรคำนวณ:

Trade amount = จำนวนลอต × ขนาดสัญญา × ราคา × อัตราแปลงสกุลเงิน

ตัวอย่างที่ 1

  • หาก trade amount ของคุณคือ 35,145 USD ค่านี้จะกำหนดว่าควรใช้เลเวอเรจระดับใดกับสถานะของคุณ รวมถึงออเดอร์อื่นที่เปิดอยู่ในตราสารเดียวกัน

    หากคุณไม่มีออเดอร์เปิดอยู่เลย คุณอาจได้รับ เลเวอเรจสูงสุด ที่มีให้สำหรับตราสารนั้น

💡 ระบบไม่ได้ใช้เลเวอเรจระดับเดียวกับสถานะทั้งหมดของคุณ

ระบบจะแบ่งสถานะของคุณออกเป็น หลายช่วง (ranges) และใช้เลเวอเรจต่างระดับกัน

ดังนั้น ออเดอร์เดียวสามารถใช้หลายระดับเลเวอเรจพร้อมกันได้

คุณสามารถดู trade amount และเลเวอเรจสูงสุดได้ในเทอร์มินัล

เลเวอเรจแต่ละระดับถูกนำมาใช้ได้อย่างไร

ตัวอย่างที่ 2

สมมติว่า trade amount รวมของคุณสำหรับตราสารหนึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 175,746.6 USD

ในกรณีนี้, ส่วนแรกของสถานะจะได้รับเลเวอเรจสูงสุด

ส่วนที่เหลือจะถูกปรับไปใช้เลเวอเรจระดับถัดไป

ระบบดำเนินการอัตโนมัติ:

  • ส่วนแรกใช้เลเวอเรจสูงสุด

  • ส่วนถัดไปใช้เลเวอเรจที่ต่ำกว่า

  • ระบบจะคำนวณมาร์จิ้นแยกกันสำหรับแต่ละส่วน แล้วรวมผลลัพธ์เข้าด้วยกัน

💡 หมายความว่า ออเดอร์เดียวอาจใช้เลเวอเรจหลายระดับพร้อมกันได้

วิธีตรวจสอบเลเวอเรจของคุณ

ในหน้าการเทรด คุณจะเห็น:

  • เลเวอเรจสูงสุดของตราสารนั้น

  • เลเวอเรจปัจจุบัน (ขึ้นอยู่กับสถานะรวมของคุณ)

  • ขั้นเลเวอเรจของตราสารนั้น (leverage steps)

  • Trade amount ซึ่งกำหนดว่าคุณอยู่ในขั้นไหน

ค่าทั้งหมดจะอัปเดตแบบเรียลไทม์เมื่อคุณเปิดหรือปิดออเดอร์

คุณสามารถดูขั้นเลเวอเรจและเลเวอเรจปัจจุบันของแต่ละตราสารได้ใน Instrument Overview

ทำไมเลเวอเรจของฉันถึงลดลง?

เลเวอเรจของคุณลดลงเมื่อสถานะรวมของคุณใหญ่พอที่จะเลื่อนไปยังขั้นเลเวอเรจที่ต่ำกว่า

อาจเกิดขึ้นเมื่อ:

  • คุณเปิดออเดอร์เพิ่มเติม

  • คุณเพิ่มขนาดลอต

  • การเปลี่ยนแปลงของราคาเพิ่ม trade amount

เลเวอเรจแบบลอยตัวช่วยป้องกันการใช้เลเวอเรจสูงมากเมื่อมีความเสี่ยงสูง

ถ้าฉันปิดหนึ่งในตำแหน่งจะเกิดอะไรขึ้น?

เมื่อคุณลดสถานะรวมโดยปิดออเดอร์หนึ่งรายการ:

  • ระบบจะคำนวณ trade amount ใหม่

  • ความต้องการมาร์จิ้นอาจลดลง

  • คุณอาจกลับไปยังขั้นเลเวอเรจที่สูงขึ้น

  • ทุกอย่างอัปเดตทันทีในแพลตฟอร์ม

สิ่งที่ควรคำนึงถึง 💡

  • เลเวอเรจแบบลอยตัวปรับอัตโนมัติตามสถานะรวมของคุณ

  • ออเดอร์เล็กได้รับเลเวอเรจสูงสุด; ออเดอร์ใหญ่เข้าสู่ขั้นเลเวอเรจที่ต่ำกว่า

  • มาร์จิ้นอาจเพิ่มขึ้นตามขนาดสถานะ

  • บางตราสารใช้เลเวอเรจคงที่ — ควรตรวจสอบข้อมูลตราสารก่อนเทรด

  • เลเวอเรจจะไม่แสดงในคำสั่งรอดำเนินการจนกว่าจะถูกเปิดใช้งาน

  • ตำแหน่งที่ป้องกันความเสี่ยง (hedged) คำนวณด้วย VWAP (volume-weighted average price) และอาจมีผลต่อขั้นเลเวอเรจ

  • VWAP คือราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตามปริมาณของออเดอร์ทั้งหมดในตราสารเดียวกัน

  • เลเวอเรจสูงสุด ไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้ — จะลดลงเท่านั้นเมื่อสถานะรวมเพิ่มขึ้น

นี่ไม่ใช่คำตอบที่ต้องการใช่ไหม